วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มาใช้ Firefox หรือ Chrome กันเถอะ




สำหรับบางคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่อง IT เท่าไหร่ อาจจะงงว่าไอ้ Firefox หรือ Chrome นี่มันคืออะไร

มันก็คือ Web browser หรือพูดง่ายๆ ก็คือโปรแกรมเล่นอินเตอร์เนตเหมือนอย่าง Internet Explorer นั่นเอง

สำหรับคนที่เคยใช้แต่ Internet Explorer คงจะเจอกับปัญหาจุกจิก ให้รำคาญใจบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น เปิดเว็บช้าบ้าง ค้างบ่อยๆ หรือแม่แต่ปัญหาไวรัส มัลแวร์ หรือโทรจันต่างๆ

เพราะฉะนั้น ผู้เขียนเลยอยากให้ทุกท่าน ลองมาใช้ Firefox หรือ Chrome ดู โดยคุณ KaizerWing จาก ping2p.blogspot.com ให้เหตุผลไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้


เหตุผลที่ฝ่าย IT แนะนำให้ใช้ Mozilla Firefox หรือ Google Chrome

หลายท่านในสำนักงานคงคุ้นเคยกับการที่ฝ่าย IT พยายามผลักดันให้ใช้ Firefox หรือ Chrome แทน Internet Explorer (IE) ของ Microsoft นะครับ ซึ่งก่อนจะอธิบายเหตุผลในแง่ความสามารถแล้ว ผมอยากให้ดูสถิติการใช้งาน Web Browser ตั้งแต่ปี 2008 - 2011
http://gs.statcounter.com/#browser-ww-monthly-200807-201102

จากสถิติแสดงให้เห็นว่า IE นั้น คนทั่วโลกใช้งานน้อยลงเรื่อยๆ (45.44%) โดยมี Firefox (30.37%) และ Chrome (16.54%) ที่กินส่วนแบ่งมาได้ (โดยเฉพาะ Chrome ที่กำลังมาแรงมาก) โดยถ้าดูในทวีปยุโรปจะเห็นว่ามีคนใช้ Firefox มากกว่า IE แล้ว http://gs.statcounter.com/#browser-eu-monthly-200807-201102

ส่วนอีก 2 ประเทศที่น่าสนใจคือเวียดนาม http://gs.statcounter.com/#browser-VN-monthly-200807-201102 กับ ไทย http://gs.statcounter.com/#browser-TH-monthly-200807-201102 มีการใช้ IE (44.14% กับ 72.28%) มีการใช้ Firefox (39.62% กับ 15.07%) (ตัวเลขแรกคือเวียดนาม ตัวที่สองคือไทยครับ)


แล้วทำไมคนทั่วโลกถึงได้มีอัตราการใช้ IE ที่ลดลงเรื่อยๆ?

ที่เห็นได้ชัดสุดผมอยากให้ลองดูการวัดประสิทธิภาพโดยเว็บ Six Revisions ซึ่งเป็นเว็บที่มีชื่อเสียงในด้านการให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บ ไซต์
http://sixrevisions.com/infographs/browser-performance/ และเว็บ CybernetNews http://cybernetnews.com/browser-comparison-internet-explorer-firefox-chrome-safari-opera/
จะเห็นได้ว่า IE 8 ซึ่งเป็นตัวปัจจุบันมีประสิทธิภาพแย่กว่า Web Browser ตัวอื่นมาก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ ความเร็วในการเปิดหน้าเว็บ การใช้งาน CPU หรือปริมาณ RAM ที่ใช้ก็ตาม

แต่ที่สำคัญคือในเรื่องการปฏิบัติตามมาตรฐานเว็บไซต์ จากการทดสอบด้วยชุดทดสอบ Acid3 คะแนนเต็ม 100 Firefox 3.5 ได้ 93 Chrome 3 ได้ 100 แต่ IE 8 ได้เพียง 20 ซึ่งประเด็นนี้ทำให้นักพัฒนาเว็บทั้งหลายปวดหัวกันมาก เพราะสร้างเว็บตรงตามมาตรฐานแต่ถ้าเปิดด้วย IE กลับเปิดแล้วเพี้ยนหรือเปิดไม่ขึ้น ดังนั้นนักพัฒนาจึงต้องทำเว็บหลายเวอร์ชันให้รองรับกับสิ่งที่ไม่ใช่มาตรฐาน (เว็บไซต์ nia.or.th ก็ทำทั้งรูปแบบที่รองรับ IE และ Web Browser อื่นที่ได้มาตรฐาน แต่ในขณะที่เว็บไซต์ที่ใช้กันเองภายในเพื่อเป็นการประหยัดเวลาจึงเน้นพัฒนา ตามมาตรฐานก่อน เพราะสามารถควบคุมการใช้งาน Web Browser ได้)

แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ยังใช้ IE กันอยู่?
เหตุผลง่ายๆเหตุผลหนึ่งคือ IE แถมติดมากับ Windows ครับ โดยเฉพาะ Windows XP ที่แถม IE 6 มาให้ ซึ่งอายุของ IE 6 ก็ร่วมทศวรรษแล้ว (เริ่มปี 2001) ถึงกับมีบางเว็บตั้ง campaign ต่อต้าน IE 6 เลยทีเดียว (
http://www.ie6nomore.com/) ในยุโรปถึงกับออกใช้มาตรการป้องกันการผูกขาดโดยให้ผู้ใช้สามารถเลือก Browser ได้เองตอนลง Windows ครั้งแรก

ซึ่งหน่วยงานราชการไทยหลายแห่งก็ยังคงไม่ทราบข้อมูลเหล่านี้ และนิยม IE เป็น Browser หลัก ทำให้เป็นเรื่องขบขันในหมู่นัก IT ว่าหน่วยงานราชการไทยต้อง IE Only แต่ในขณะนี้ผมภูมิใจที่ได้บอกกับคนอื่น ว่าสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นแล้วครับ

แต่ก็น่ายินดีที่ในอนาคต IE 9 ของ Microsoft ที่กำลังจะออกมาในเร็วๆนี้ในสนใจที่จะทำตามมาตรฐานเว็บมากขึ้น และได้พัฒนาประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก มาช้ายังดีกว่าไม่มานะครับ

แล้วถ้า Browser ตัวใหม่ของแต่ละค่ายออกมาเมื่อไหร่จะมาเล่าสู่กันฟังอีกทีนะครับ


เป็นอย่างไรบ้างครับ ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ KaizerWing มา ณ โอกาสนี้นะครับ บทความนี้เค้าเขียนไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 54 ซึ่งตอนนั้น Firefox 4 ยังไม่ออกมา แต่ปัจจุบันนี้ Firefox 4 ได้ออกมาแล้ว (Firefox 5 ก็มาแล้วเช่นกัน) พร้อมกับทำสถิติยอดดาวน์โหลดมหาศาล (มากว่า IE 9 ที่ออกมาก่อนหน้าอีกด้วย) ส่วน Chrome ก็พัฒนาถึงเวอร์ชั่น 12 แล้วเช่นกัน ผู้เขียนก็หวังว่าโปรแกรมเหล่านี้จะเป็นทางเลือกให้เราท่องเนตได้น่าอภิรมย์ยิ่งขึ้นนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น